PM2.5 กับโรคเรื้อรัง และบทบาทของน้ำในการลดความเสี่ยง

PM2.5 กับโรคเรื้อรัง และบทบาทของน้ำในการลดความเสี่ยง
PM2.5 คืออะไร และส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร?
PM2.5 (Particulate Matter 2.5) คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมโครเมตร สามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจและกระแสเลือด ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น
- โรคทางเดินหายใจ: หอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) มะเร็งปอด
- โรคหัวใจและหลอดเลือด: หลอดเลือดตีบ หัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง
- โรคทางระบบประสาท: เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม โรคอัลไซเมอร์
- โรคเบาหวานและอ้วนลงพุง: อนุภาค PM2.5 สามารถกระตุ้นการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย
บทบาทของน้ำในการลดความเสี่ยงจาก PM2.5
- ช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย
- การดื่มน้ำปริมาณมากช่วยขับสารพิษและโลหะหนักที่อาจปนเปื้อนใน PM2.5 ผ่านทางปัสสาวะ
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ระบบทางเดินหายใจ
- การดื่มน้ำช่วยให้เยื่อบุทางเดินหายใจชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองจากฝุ่นละออง
- กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
- น้ำมีส่วนช่วยในการขนส่งออกซิเจนและสารอาหารไปยังเซลล์ต่าง ๆ ทำให้ร่างกายสามารถรับมือกับมลพิษได้ดีขึ้น
- ลดการสะสมของเมือกในปอด
- การดื่มน้ำช่วยทำให้เสมหะไม่เหนียวข้นเกินไป ลดความเสี่ยงของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
- ช่วยให้อากาศในห้องสะอาดขึ้น
- การใช้น้ำ เช่น เครื่องพ่นไอน้ำ หรือวางภาชนะใส่น้ำในห้อง สามารถช่วยลดฝุ่นละอองในอากาศ
คำแนะนำในการลดผลกระทบของ PM2.5
- หลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอกในวันที่ค่าฝุ่นสูง
- สวมหน้ากาก N95 เมื่อต้องออกไปในที่ที่มีฝุ่นมาก
- ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร
- รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน C และ E
- ใช้เครื่องฟอกอากาศในบ้านเพื่อลดปริมาณฝุ่น PM2.5
น้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยบรรเทาผลกระทบของ PM2.5 และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากภาวะอักเสบเรื้อรังที่เกิดจากมลพิษทางอากาศ